ข้อมูลการออกอากาศ ของ มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ ซีซันที่ 5

ตอนที่ 1 : รอบคัดเลือก 1

ออกอากาศ 13 กุมภาพันธ์ 2565
  • กรรมการรับเชิญ: ณัฐวุฒิ ธรรมพันธุ์ (เชฟอ๊อฟ), พฤกษ์ สัมพันธวรบุตร (เชฟพฤกษ์), ธีรภัทร ตียาสุนทรานนท์ (เชฟอาร์), ภาวิตา แซ่เจ้า (เชฟแอน), กันต์ยรัตน์ เพียรพอดีตน (เชฟบูม)
  • ทักษะพื้นฐานในการทำอาหาร: ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 60 คนต้องแสดงทักษะในครัวขั้นพื้นฐาน ด้วยการทอดไข่ดาว จำนวน 24 ฟอง ภายในเวลา 15 นาที โดยผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะได้รับไข่คนละ 1 แผง จำนวน 25 ฟอง ไข่ดาวที่ต้องการคือ ไข่ขาวต้องไม่ดิบ ไข่ดาวต้องไม่ไหม้ และไข่แดงต้องไม่แตก (เยิ้มหรือไม่ก็ได้) กรรมการหลักและกรรมการรับเชิญจะตรวจไข่ดาวของผู้เข้าแข่งขันเป็นระยะ หากไข่ดาวของผู้เข้าแข่งขันแตกมากกว่า 1 ฟองจะถูกคัดออกทันทีโดยการดึงผ้ากันเปื้อนของผู้เข้าแข่งขันออก และมีการตรวจสอบโดยละเอียดทุกการพักการแข่งขันทุก 5 นาที เมื่อหมดเวลาแล้ว หากมีไข่ดาวที่สมบูรณ์ไม่ครบ 24 ฟองจะถูกคัดออก
  • ผู้ที่ผ่านเข้ารอบ: เริญ, อังกฤษ, แดง, เจ๊ก, ขวัญ, เม็ดพลอย, ตึ๋ง, หมู, วาเนสซ่า, อาร์ต, หยก, ต้น, มิเชล, ภูเขา, เบลล์, แหม่ม โอ๊ค, ยู, นุ, กู๊ดดี้, ข้าวทิพย์, เท็น, บอย, แอน, ไม้ซุง, น้ำชา, เบียร์, คิว, โจ, ลูกหมี
  • ทักษะพื้นฐานในการทำอาหาร: ผู้เข้าแข่งขันที่เหลือทั้ง 30 คน จะต้องเลือกสเตชันในการทำอาหาร โดยในรอบนี้จะมีอยู่ 3 สี ได้แก่ สีเหลือง สีเขียว และสีแดง ซึ่งแต่ละสเตชันจะมีโจทย์ที่แตกต่างกัน นั่นคือ การทำพริกแกง 3 ชนิดในเวลา 30 นาที โดยผู้ที่เลือกสเตชันสีเหลืองจะต้องทำพริกแกงเหลือง ผู้ที่เลือกสเตชันสีเขียวจะต้องทำพริกแกงเขียวหวาน และผู้ที่เลือกสเตชันสีแดงจะต้องทำพริกแกงฉู่ฉี่ โดยเกณฑ์การตัดสิน คือ พริกแกงไม่หยาบ, สีของพริกแกงถูกต้องชัดเจน และมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 250 กรัม ทั้งนี้ ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดจะต้องเลือกวัตถุดิบสำหรับทำพริกแกงในโจทย์ที่ตนเองได้รับภายใน 5 นาที และห้ามปรึกษากัน ผู้ที่ใส่ส่วนผสมผิดหรือไม่ครบจะถูกคัดออกทันที ผู้ที่สามารถทำได้ครบถ้วนจะเป็นผู้เข้าแข่งขันตัวจริงทันที
  • ผู้ที่ผ่านเข้ารอบ: เม็ดพลอย, แหม่ม, หมู, ข้าวทิพย์, แดง, เท็น, อังกฤษ, เจ๊ก, โจ, เริญ, ตึ๋ง, อาร์ต

ตอนที่ 2-3 : รอบคัดเลือก 2

ออกอากาศ 20 กุมภาพันธ์ 2565 และ 27 กุมภาพันธ์ 2565
  • บททดสอบภารกิจแบบทีม: ในสัปดาห์นี้เป็นการแข่งขันของผู้เข้าแข่งขันที่ตกรอบไปแล้ว และได้รับโอกาสแก้ตัว จำนวน 24 คน โดยบททดสอบในรอบแรก คือ บททดสอบภารกิจแบบทีม ซึ่งได้แบ่งออกเป็นสองทีม คือ ทีมสีชมพู และทีมสีฟ้า ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะต้องเลือกทีมกันเอง
หัวหน้าทีมสมาชิก
เอมไม้ซุง, หยก, แน่น, มิเชล, ภูเขา, แทส, ต้น, แอน, ฝนหลิว, ฮอลลี่, นุ
โหน่งยุพ, ขวัญ, เบียร์, แบรด, โอ๊ต, กิมแจ้, เบลล์, น้ำชา, ยู, บอย, เมาะ

โดยทั้งสองทีมจะต้องทำอาหารจานหลักจากวัตถุดิบ เนื้อแองกัส ส่วนริบอาย จากประเทศออสเตรเลีย และ ปูม้า จากทะเลอันดามัน และอาหารหวานจากวัตถุดิบ ลูกตาล จากจังหวัดเพชรบุรี เสิร์ฟกรรมการซึ่งเป็นเชฟมืออาชีพ นักชิมและนักวิจารณ์อาหารชื่อดังของประเทศไทย จำนวน 50 คน ภายในเวลา 2 ชั่วโมง 30 นาที แต่จะต้องเสิร์ฟอาหารจานหลักในเวลา 2 ชั่วโมง ในระหว่างการทำอาหาร หัวหน้าทีมสีฟ้าไม่สามารถควบคุมทีมได้ จึงมีการเปลี่ยนหัวหน้าทีมเป็น แบรด เมื่อถึงเวลา 2 ชั่วโมง ที่จะต้องเสิร์ฟอาหารจานหลัก ทีมสีฟ้ามีอาหารที่ไม่สมบูรณ์จำนวน 10 จาน และทีมสีชมพูมีอาหารที่ไม่สมบูรณ์จำนวน 16 จาน ซึ่งจานเหล่านี้ไม่สามารถเสิร์ฟกรรมการได้ สำหรับขนมหวาน ทั้งสองทีมสามารถเสิร์ฟได้ครบถ้วน โดยผลจากการตัดสินทีมที่ชนะคือ ทีมสีชมพู ชนะไปด้วยคะแนน 29 ต่อ 21

  • ทีมที่ชนะ: สีชมพู

จากชัยชนะของทีมสีชมพู ส่งผลให้ทีมสีฟ้าทั้งทีมต้องแข่งขันต่อในรอบถัดไป ส่วนทีมสีชมพู เนื่องจากอาหารของทั้งสองทีมยังไม่ได้มาตรฐาน จึงทำให้กรรมการเล็งเห็นว่าจะมอบผ้ากันเปื้อนให้ทีมสีชมพูจำนวน 7 ผืนเท่านั้น และให้ทีมสีชมพูปรึกษากันภายในทีม ซึ่งทีมสีชมพูได้ข้อสรุปว่าจะให้ นุ, ต้น, แทส, หยก, มิเชล, ไม้ซุง และฮอลลี่ ได้รับผ้ากันเปื้อนในรอบนี้ ขณะที่กรรมการเห็นด้วยกับทีมเพียง 2 คนเท่านั้น แต่เนื่องจากสมาชิกที่เหลือไม่ต่อสู้เพื่อคว้าโอกาสเอง ทำให้ผู้ที่ถูกเลือกทั้ง 7 คนได้รับผ้ากันเปื้อน ส่วนผู้เข้าแข่งขันที่เหลืออีก 5 คนจะต้องไปแข่งขันกันต่อในรอบถัดไป

  • ผู้ที่ผ่านเข้ารอบ: นุ, ต้น, แทส, หยก, มิเชล, ไม้ซุง, ฮอลลี่
  • บททดสอบความคิดสร้างสรรค์: ผู้เข้าแข่งขันที่เหลือทั้ง 17 คน จะต้องแข่งขันกันต่อด้วยวัตถุดิบหลัก "หอยขม" ในเวลา 60 นาที เพื่อหาผู้เข้าแข่งขันเข้ารอบเพิ่มเติม หอยขมที่รายการเตรียมให้อยู่ในบ่อโคลน และจะต้องทำความสะอาดด้วยตัวเอง ผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านเข้ารอบในรอบนี้ คือ ยุพ, โหน่ง, แน่น, เบลล์, เอม, โอ๊ต, แบรด และ ขวัญ
  • ผู้ที่ผ่านเข้ารอบ: ยุพ, โหน่ง, แน่น, เบลล์, เอม, โอ๊ต, แบรด, ขวัญ

ตอนที่ 3 : การแข่งขันอย่างเป็นทางการ

ออกอากาศ 27 กุมภาพันธ์ 2565
  • การแข่งกล่องปริศนา: จากผู้เข้าแข่งขันจำนวน 27 คน เนื่องจากมีผู้เข้าแข่งขันจำนวน 5 คนที่เสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด 19 ได้แก่ เจ๊ก​, เท็น, หมู, เริญ​ และแหม่ม จึงไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ ในกล่องปริศนามีวัตถุดิบสีดำ ได้แก่ ไก่ดำ ไข่เยี่ยวม้า เฉาก๊วย ข้าวกล้องสีนิล ทรัฟเฟิล มะกอกดำ เห็ดหอม สาหร่าย แบล็คเบอร์รี่ หมึกดำ และดาร์กช็อกโกแลต และในลิ้นชักของผู้เข้าแข่งขัน มีผ้ากันเปื้อนสีดำให้เปลี่ยน นั่นหมายความว่าจะมีผู้เข้าแข่งขันถูกคัดออก โดยในรอบนี้จะถูกคัดออกจำนวน 5 คน หลังจากที่กรรมการชิมอาหารของผู้เข้าแข่งขันแล้ว มี 7 จานที่ผิดพลาดมากที่สุด ได้แก่ โจ ทำไก่ดิบทำให้กรรมการไม่สามารถชิมได้, เอม ไก่ดำสุกเกินไป และรสชาติโดยรวมไม่เข้ากัน, โอ๊ต มีปัญหาเรื่องรสชาติที่อ่อนเกินไป, ขวัญ เสิร์ฟข้าวดิบ ทำให้กรรมการไม่สามารถชิมได้, แทส มีปัญหาด้านการปรุงรส, ต้น ไก่สุกเกินไป แต่ข้าวดิบ, เม็ดพลอย เมนูไม่มีตัวเชื่อม ทำให้รสชาติไปคนละทาง ส่วนจานที่ดีที่สุด 3 จาน คือ อังกฤษ, แบรด และ นุ โดยผู้ชนะ คือ นุ และจะได้รับสิทธิพิเศษ คือ เลือกผู้เข้าแข่งขัน 2 คน ให้อยู่ต่อ โดยนุได้เลือก ต้น และขวัญ จากนั้น กรรมการเลือกผู้เข้าแข่งขัน 3 คนที่จะต้องออกจากการแข่งขัน คือ โจ เอม และเม็ดพลอย
  • ผู้ชนะ: นุ
  • ผู้ที่ตกอยู่ในอันดับผลงานแย่ที่สุด: โอ๊ต, เอม, โจ†, เม็ดพลอย, ต้น†, แทส, ขวัญ†
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: โจ เอม และเม็ดพลอย

หมายเหตุ † หมายถึง ผู้เข้าแข่งขันที่ถูกทิ้งอาหารโดยไม่มีการชิมในการแข่งขันนั้น

ตอนที่ 4 : วัตถุดิบสุดโหดร้าย

ออกอากาศ 6 มีนาคม 2565
  • การแข่งกล่องปริศนา: ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 19 คน ต้องพบกับกล่องปริศนา ซึ่งในรอบนี้เป็นโจทย์ของโฮมคุกที่ประสบความสำเร็จและเป็นเชฟแถวหน้าของประเทศไทย เชฟตุ๊กตา สุพัตรา สารสิทธิ์ เจ้าของร้านบ้านยี่สาร วัตถุดิบในกล่อง เป็นวัตถุดิบพื้นบ้านของไทย ประกอบไปด้วย ประกอบด้วย กุ้งแม่น้ำ ปลาหมอ ใบชะคราม ลูกตำลึง เห็ดเผาะ ผักขี้หูด มะรุม มะดัน มะอึก มะเฟือง ยอดมะพร้าว และเม็ดสาคู ผู้เข้าแข่งขันจะต้องทำอาหารให้มีความโดดเด่น ในเวลา 60 นาที เมื่อกรรมการชิมอาหารของผู้เข้าแข่งขันทุกคนแล้ว สามจานที่ดีที่สุดในรอบนี้เป็นของ ยุพ ตึ๋ง โอ๊ต และผู้ชนะ คือ โอ๊ต
  • ผู้ชนะ: โอ๊ต
  • บททดสอบความคิดสร้างสรรค์: จากการที่ โอ๊ต เป็นผู้ชนะในรอบกล่องปริศนา โอ๊ตจะได้รับสิทธิพิเศษ คือ เขาจะได้ผ่านเข้ารอบต่อไปโดยไม่ต้องแข่งขัน และสามารถเลือกเพื่อนอีก 8 คนให้ผ่านเข้ารอบไปกับเขาโดยการนำลูกโป่งหัวใจไปมอบให้กับผู้เข้าแข่งขันที่เลือกให้ผ่านเข้ารอบไปด้วย โดยโอ๊ตได้เลือก แดง ยุพ ตึ๋ง อังกฤษ แน่น ฮอลลี่ ข้าวทิพย์ และแทส ส่วนผู้เข้าแข่งขันอีก 10 คน จะต้องแข่งขันกันต่อโดยใช้วัตถุดิบหลัก คือ หัวใจวัว ผู้เข้าแข่งขันมีเวลา 60 นาทีในการทำอาหารและเวลา 5 นาทีในการเลือกวัตถุดิบในซูเปอร์มาร์เก็ต หลังจากที่กรรมการชิมอาหารของผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดแล้ว ผู้เข้าแข่งขันที่ทำอาหารออกมาได้ไม่ดีจำนวน 4 คน คือ หยก นุ ต้น ขวัญ ผู้ที่ต้องออกจากการแข่งขัน คือ ต้น
  • ผู้ที่ตกอยู่ในอันดับผลงานแย่ที่สุด: หยก นุ ต้น ขวัญ
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: ต้น

ใกล้เคียง

มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ ซีซันที่ 3 มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ ซีซันที่ 6 มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ ซีซันที่ 5 มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ ซีซันที่ 2 มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ ซีซันที่ 1 มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ ซีซันที่ 4